ชื่อเรื่อง : โรคไข้ดิน หรือ โรคเมลิออยด์
รายละเอียด : โรคไข้ดิน หรือ โรคเมลิออยด์ เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในดินและน้ำ. โรคนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง เช่น ผ่านแผลบนผิวหนัง, การดื่มน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ, และการสูดดมฝุ่นจากดินที่ปนเปื้อนเชื้อ.
สาเหตุ:
แบคทีเรีย:
โรคไข้ดินเกิดจากแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei.
การติดต่อ:
เชื้อแบคทีเรียสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง:
การสัมผัสดินหรือน้ำ: การเดินลุยน้ำ, ย่ำโคลน, หรือการสัมผัสดินโดยตรง.
การบาดแผล: เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านแผลบนผิวหนัง.
การดื่มน้ำหรืออาหาร: การดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ.
การสูดดมฝุ่น: การสูดดมฝุ่นจากดินที่มีเชื้อ.
ฤดูฝน:
โรคไข้ดินพบมากในฤดูฝน เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียจะแพร่กระจายได้ง่ายในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น.
อาการ:
ไข้สูง:
อาการหลักของโรคไข้ดินคือไข้สูง.
ฝีหนอง:
อาจมีฝีหนองที่ผิวหนังหรืออวัยวะภายใน.
อาการอื่นๆ:
ปวดท้อง, ปวดศีรษะ, ปวดเมื่อยตามตัว, ไอ, หายใจลำบาก.
การติดเชื้อในกระแสเลือด:
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งอาจรุนแรงถึงแก่ชีวิต.
การป้องกัน:
หลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำ:
หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ, ย่ำโคลน, หรือสัมผัสดินโดยตรง.
สวมอุปกรณ์ป้องกัน:
หากจำเป็นต้องสัมผัสดินหรือน้ำ ควรสวมรองเท้าบูท, ถุงมือยาง, กางเกงขายาว หรือชุดลุยน้ำ.
ทำความสะอาดแผล:
หากมีบาดแผลที่ผิวหนัง ควรรีบทำความสะอาดแผล และหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำจนกว่าแผลจะแห้งสนิท.
รับประทานอาหารปรุงสุก:
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดิบ หรืออาหารที่ไม่ปรุงสุก.
ดื่มน้ำสะอาด:
ดื่มน้ำต้มสุกทุกครั้ง.
การรักษา:
ยาปฏิชีวนะ:
ผู้ป่วยโรคไข้ดินจะได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ.
ยาปฏิชีวนะแบบฉีด:
ยาปฏิชีวนะแบบฉีดเป็นยาตัวเลือกแรกสำหรับการรักษา.
ระยะเวลาการรักษา:
การรักษาต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน.
คำแนะนำ:
หากมีอาการไข้สูงติดต่อกันหลายวัน, ปวดหัว, ปวดเมื่อยตามตัว, หรือมีฝีหนองที่ผิวหนัง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา.
หากมีประวัติการเดินลุยน้ำ, ย่ำโคลน, หรือสัมผัสดิน ควรแจ้งแพทย์เพื่อแจ้งประวัติการสัมผัสเชื้อ.
โรคไข้ดินสามารถรักษาได้หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที.
ชื่อไฟล์ : rc50MCwTue24703.jpg
file_download
ดาวน์โหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : CshJvrETue24709.jpg
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้